หัวข้อ
- #ไม่มีประสิทธิภาพ
- #อาหารเสริมสุขภาพที่ซื้อแล้วคือโง่
- #อาหารเสริม
สร้าง: 2024-03-29
สร้าง: 2024-03-29 20:43
ฉันจะมาบอกเกี่ยวกับอาหารเสริมสุขภาพ 5 ชนิดที่ไม่ควรซื้อเด็ดขาด เพราะมันเหมือนกับการโง่ๆ เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ หลายคนมักจะมองหาอาหารเสริมสุขภาพ เช่น วิตามิน โอเมก้า 3 เพื่อดูแลสุขภาพของตัวเอง แต่รู้หรือไม่ว่ามีอาหารเสริมหรือวิตามินบางชนิดที่ซื้อมาก็เหมือนกับโง่ๆ เสียเงินเปล่าๆ? ดังนั้นก่อนซื้อควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนนะคะ
อาหารเสริมสุขภาพที่ซื้อมาก็เหมือนกับโง่ๆ เสียเงินเปล่าๆ อันดับแรกคือ ผลิตภัณฑ์เอนไซม์ค่ะ บริษัทต่างๆ มักจะโฆษณาว่าเอนไซม์เป็นสิ่งมีชีวิต แต่ความจริงแล้วเอนไซม์ไม่ได้เป็นจุลินทรีย์หรือเชื้อราที่มีชีวิตอยู่ค่ะ เอนไซม์เคยถูกจัดอยู่ในประเภทอาหารเสริมสุขภาพมาก่อน แต่เนื่องจากไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนประสิทธิภาพ จึงถูกตัดออกจากประเภทอาหารเสริมสุขภาพไป
และหากต้องการให้เอนไซม์ออกฤทธิ์ในร่างกายของเรา ต้องมีทั้งอุณหภูมิและค่าความเป็นกรดที่เหมาะสม ซึ่งทั้งสองเงื่อนไขนี้ยากที่จะเกิดขึ้นพร้อมกัน
ดังนั้น ผลิตภัณฑ์เอนไซม์ที่วางขายตามท้องตลาดส่วนใหญ่จึงไม่มีประโยชน์อะไรเลยเมื่อรับประทานเข้าไป เอนไซม์ย่อยสลายโปรตีนอย่างโบรมีเลนก็เป็นเอนไซม์ตัวอย่างหนึ่งที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในร่างกาย
เอนไซม์จากการหมักธัญพืชต่างๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไปบนโซเชียลมีเดีย ยังไม่มีการศึกษาเลยว่ามันทำงานได้ดีในอุณหภูมิและค่าความเป็นกรดแบบไหน ดังนั้น การที่คุณเห็นรีวิวปลอมๆ บนอินเทอร์เน็ตหรือโซเชียลมีเดีย แล้วคิดว่าเอนไซม์ช่วยลดอาการบวม ลดน้ำหนัก ขับสารพิษ เสริมภูมิคุ้มกัน แล้วตัดสินใจซื้อมากิน ก็เหมือนกับการโง่ๆ เสียเงินเปล่าๆ ค่ะ
อาหารเสริมที่ซื้อมาก็เหมือนกับโง่ๆ เสียเงินเปล่าๆ อันดับที่สองคือ ผลิตภัณฑ์ V-Shape และผลิตภัณฑ์ลดอาการบวมน้ำค่ะ หากดูผลิตภัณฑ์ที่เคลมว่าช่วยลดอาการบวมน้ำหรือทำให้ใบหน้าเรียวขึ้น จะพบว่ามีจุดร่วมกันคือ มันอ้างว่าช่วยลดอาการบวมน้ำที่เกิดจากการรับประทานอาหารเค็ม ซึ่งหมายความว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่สามารถลดอาการบวมที่เกิดจากปัญหาสุขภาพหรือการเพิ่มน้ำหนักได้ ปัญหาคือมันไม่ได้ผลแม้กระทั่งกับการลดอาการบวมที่เกิดจากการรับประทานอาหารเค็ม
ผลิตภัณฑ์ลดอาการบวมน้ำมักจะมีส่วนผสมของกล้วย ฟักทอง บีทรูท มอริ่งกา ข้าวโพดอ่อน ฯลฯ ซึ่งเป็นผักและผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง
โพแทสเซียมสามารถช่วยขับโซเดียมออกจากร่างกาย จึงช่วยลดอาการบวมที่เกิดจากการรับประทานอาหารเค็มได้ แต่ปัญหาคือการรับประทานผักและผลไม้เหล่านี้ในปริมาณมากๆ จึงจะได้โพแทสเซียมในปริมาณที่เพียงพอที่จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่การรับประทานในรูปแบบของผง สารสกัด น้ำผลไม้ ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ลดอาการบวมน้ำนั้นไม่มีทางได้ผลเลย
มีผลิตภัณฑ์บางชนิดที่ใส่สมุนไพรจีนต่างๆ แล้วอ้างว่าช่วยลดอาการบวมน้ำ แต่ในซองเล็กๆ นั้นจะมีสมุนไพรจีนอยู่แค่ไหน? ยิ่งไปกว่านั้น สมุนไพรจีนส่วนใหญ่รสชาติไม่ดี จึงไม่สามารถใส่ในปริมาณมากๆ ได้
ดังนั้น อย่าไปซื้อผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าช่วยขับสารพิษหรือทำให้ใบหน้าเรียวมาทานเลยค่ะ เพราะมันเหมือนกับการโง่ๆ เสียเงินเปล่าๆ ถ้ากินอาหารเค็มแล้วบวม ลองกินกล้วยดูจะดีกว่าค่ะ
อาหารเสริมที่ซื้อมาก็เหมือนกับโง่ๆ เสียเงินเปล่าๆ อันดับที่สามคือ ผลิตภัณฑ์ยีสต์ที่ไม่มีเครื่องหมายอาหารเสริมสุขภาพค่ะ เมื่อซื้ออาหารเสริม ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมายอาหารเสริมสุขภาพจะดีกว่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลิตภัณฑ์ยีสต์หรือโปรไบโอติกส์ที่ไม่มีเครื่องหมายอาหารเสริมสุขภาพ ควรหลีกเลี่ยงการซื้อมาทานค่ะ เพราะการผลิตผลิตภัณฑ์ประเภทนี้โดยไม่แสดงเครื่องหมายอาหารเสริมสุขภาพนั้นถือว่าไม่ซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค
เหตุผลที่ไม่ควรทานผลิตภัณฑ์ยีสต์ที่ไม่มีเครื่องหมายอาหารเสริมสุขภาพก็คือ เราไม่รู้ว่ามันใช้ยีสต์ชนิดไหน ปริมาณเท่าไหร่ และยีสต์นั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
อาจมียีสต์เพียงแค่ 1 ตัว หรืออาจใช้ยีสต์ที่ตายแล้วเนื่องจากการเก็บรักษาที่ไม่ดีก็ได้ แถมยังโฆษณาว่าเป็นยีสต์ที่มีชีวิตอยู่ ทั้งที่ตามกฎหมายแล้ว ถ้าไม่ใช่การโฆษณาคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ ก็ไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด
อาหารเสริมที่ซื้อมาก็เหมือนกับโง่ๆ เสียเงินเปล่าๆ อันดับที่สี่คือ ผลิตภัณฑ์โพรพอลิสแบบฟิล์มค่ะ ผลิตภัณฑ์โพรพอลิสแบบฟิล์มส่วนใหญ่ไม่ได้รับการรับรองเป็นอาหารเสริมสุขภาพ ดังนั้นจึงไม่สามารถทราบได้ว่าใช้โพรพอลิสในปริมาณเท่าไหร่ และมีสารฟลาโวนอยด์อยู่เท่าไหร่ เด็กๆ มักจะชอบทานผลิตภัณฑ์ประเภทนี้เพราะมันอร่อย แต่ความจริงแล้วผู้ผลิตมุ่งเน้นไปที่รสชาติมากกว่าคุณภาพของโพรพอลิส ดังนั้นทานไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ถึงแม้ว่าจะมีผลิตภัณฑ์โพรพอลิสแบบฟิล์มบางชนิดที่ได้รับการรับรองเป็นอาหารเสริมสุขภาพ แต่ก็ไม่แนะนำให้ทานเช่นกัน เพราะปริมาณสารฟลาโวนอยด์ในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต่ำมาก เหตุผลที่ผลิตภัณฑ์โพรพอลิสแบบฟิล์มที่ได้รับการรับรองเป็นอาหารเสริมสุขภาพมีสารฟลาโวนอยด์ต่ำก็เพราะว่าไม่มีกฎเกณฑ์ที่กำหนดว่าต้องใส่สารฟลาโวนอยด์ในปริมาณเท่าไหร่เมื่อผลิตโพรพอลิสสำหรับใช้ในการฆ่าเชื้อในช่องปาก
กล่าวคือ มันเป็นแค่ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพเท่านั้น และสามารถใส่โพรพอลิสได้มากกว่าผลิตภัณฑ์อาหารทั่วไปเล็กน้อยเท่านั้น หากคุณพบผลิตภัณฑ์โพรพอลิสแบบฟิล์มที่ระบุปริมาณโพรพอลิสและสารฟลาโวนอยด์ที่เพียงพอ ก็สามารถทานได้ค่ะ
อาหารเสริมที่ซื้อมาก็เหมือนกับโง่ๆ เสียเงินเปล่าๆ อันดับสุดท้ายคือ ผลิตภัณฑ์ไซเลียมฮัสก์ผสมสารอาหารหลายชนิดค่ะ ควรหลีกเลี่ยงการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทนี้
เพราะไซเลียมฮัสก์จะถูกขับออกจากร่างกายในรูปแบบของอุจจาระ และสารอาหารอื่นๆ ที่ผสมอยู่ก็อาจถูกขับออกไปพร้อมกับไซเลียมฮัสก์ ส่งผลให้ยีสต์ที่ผสมอยู่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะเข้าทางปากแล้วก็ออกทางก้น
แน่นอนว่าสารอาหารบางชนิดที่ละลายหรือแตกตัวเร็วในร่างกาย อาจจะสามารถซึมผ่านเจลของไซเลียมฮัสก์ได้บ้าง แต่สารอาหารส่วนใหญ่ก็ยังคงถูกขับออกไปพร้อมกับไซเลียมฮัสก์อยู่ดี
ดังนั้น เมื่อเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ไซเลียมฮัสก์ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารอาหารอื่นๆ ผสมอยู่ และเมื่อรับประทานไซเลียมฮัสก์ ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารเสริมอื่นๆ ด้วยนะคะ
ความคิดเห็น0