หัวข้อ
- #การเสริมสร้างสายตา
- #การฟื้นฟูสายตา
- #สุขภาพดวงตา
- #อาหารบำรุงสายตา
- #สายตาเสื่อม
สร้าง: 2024-03-31
สร้าง: 2024-03-31 06:50
ฉันจะมาแนะนำอาหารวิเศษ 7 อย่างที่จะช่วยให้สายตาดีขึ้นค่ะ ดวงตาเป็นอวัยวะในร่างกายที่เริ่มเสื่อมสภาพเร็วมากค่ะ การใช้งานสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นทำให้แม้แต่คนหนุ่มสาวก็ประสบกับอาการสายตายาวมากขึ้น ดังนั้นฉันจึงได้รวบรวมอาหาร 7 อย่างที่จะช่วยให้สายตาดีขึ้นมาฝากค่ะ ไปดูกันเลยค่ะ
หลายคนคงเคยประสบกับอาการที่ภาพเบลอ มืด หรือพร่ามัว สายตาเป็นสิ่งที่เมื่อเสื่อมสภาพลงแล้วจะฟื้นตัวได้ช้า ดังนั้นการดูแลอย่างต่อเนื่องจึงมีความสำคัญ แต่สำหรับคนที่สายตารายวันแย่ลงเรื่อยๆ และรู้สึกว่าตาแห้งล้า ขอให้ดูรายการอาหารที่ฉันจะแนะนำต่อไปนี้ให้ดี และรับประทานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างดวงตาที่สดใสและมีสุขภาพดีค่ะ
อันดับแรกคือ บลูเบอร์รี่ค่ะ บลูเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน ช่วยปกป้องสายตา และมีสารลูทีนซึ่งช่วยกระตุ้นการทำงานของโรด๊อปซิน ทำให้ดวงตาที่เมื่อยล้าฟื้นตัวได้เร็วขึ้น สารแอนโทไซยานินซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังช่วยปกป้องร่างกายจากสารที่ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพ และยังแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในการชะลอการเสื่อมสภาพของดวงตา
ช่วยป้องกันและฟื้นฟูดวงตาให้กลับสู่สภาพปกติจากโรคต้อกระจก สายตาสั้น ภาวะจอประสาทตาเสื่อม เป็นต้น บลูเบอร์รี่สดค่อนข้างเก็บรักษาได้ยาก จึงมักจะต้องแช่แข็ง แต่ฉันแนะนำให้ดื่มน้ำบลูเบอร์รี่ที่วางขายตามท้องตลาดก็ได้เช่นกันค่ะ
อันดับสองคือ เค ลค่ะ เค ลเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพดวงตาอย่างแท้จริง จำให้ขึ้นใจเลยนะคะ เค ลอุดมไปด้วยสารลูทีนซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีประโยชน์ต่อดวงตา มีสารลูทีนมากกว่าบลูเบอร์รี่ถึง 30 เท่า และงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกาพบว่าการรับประทานสารสกัดจากเค ลอย่างต่อเนื่องทำให้สายตาที่พร่ามัวกลับมาสดใส และช่วยให้จอประสาทตาฟื้นตัวได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ยังมีวิตามินเอมากกว่ากะหล่ำปลีถึง 100 เท่า ช่วยสร้างเกราะป้องกันให้กับดวงตาและช่วยฟื้นฟูสายตา จึงกล่าวได้ว่ามีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมในการบำรุงสายตาค่ะ
อันดับสามคือ เมล็ดแมงลักค่ะ โดยทั่วไปแล้วมักจะดื่มในรูปแบบของชาเมล็ดแมงลัก เป็นชาที่มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องการบำรุงสายตา เมล็ดแมงลักอุดมไปด้วยวิตามินเอและซี เบตาแคโรทีน และแคมป์เฟอรอล นอกจากนี้ยังดูดซึมได้ง่าย จึงช่วยป้องกันการเสื่อมของสายตา และยังมีประโยชน์ต่อการรักษาโรคเกี่ยวกับตา เช่น โรคตาแดง ต้อกระจก ต้อหิน เป็นต้น
นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของจอประสาทตา ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันให้แข็งแรงขึ้น และยังมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการตาแดงเมื่อดวงตาเมื่อยล้าหรือไม่สบาย จึงกล่าวได้ว่าเมล็ดแมงลักเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการดูแลสุขภาพดวงตา อย่าลืมรับประทานเป็นประจำนะคะ
อันดับสี่คือ บีทรูทค่ะ บีทรูทสีแดงเป็นสมุนไพรที่ช่วยให้ดวงตาสดใส อุดมไปด้วยวิตามินเอและซี และสารต้านอนุมูลอิสระ พร้อมคุณสมบัติที่ดูดซึมได้ดี ช่วยลดความร้อนในดวงตาเมื่อดวงตาเมื่อยล้า และช่วยให้การไหลเวียนโลหิตในดวงตาดีขึ้น
ช่วยปกป้องจอประสาทตา และยับยั้งการลุกลามของโรคจอประสาทตาเสื่อม ช่วยบรรเทาอาการตาแห้งและภาพเบลอ และช่วยฟื้นฟูดวงตาให้กลับสู่สภาพปกติ ช่วยบรรเทาอาการของโรคตาที่เกิดจากการเสื่อมสภาพ เช่น ต้อกระจก เป็นต้น บีทรูทสามารถรับประทานสดได้ แต่เนื่องจากเนื้อมีความแข็ง จึงอาจรับประทานได้ยาก ดังนั้นจึงแนะนำให้ปั่นดื่มแทนค่ะ
ไข่อุดมไปด้วยวิตามินเอมากกว่าที่คิด และยังดูดซึมได้ดีอีกด้วย วิตามินเอช่วยป้องกันอาการตาแห้ง และช่วยสร้างเกราะป้องกันให้กับดวงตา ช่วยบรรเทาอาการของโรคเกี่ยวกับตา เช่น โรคเยื่อบุตาอักเสบ ต้อกระจก เป็นต้น
โดยเฉพาะไข่แดง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระลูทีนและซีแซนทีน ช่วยทำความสะอาดหลอดเลือดฝอยในดวงตาและกรองของเสียออก ช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น และช่วยฟื้นฟูสายตาได้อย่างรวดเร็ว แนะนำให้รับประทานไข่ต้มที่ไม่มีส่วนผสมอื่นๆ ค่ะ
อันดับหกคือ อะโวคาโดค่ะ อะโวคาโดอุดมไปด้วยลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารสำคัญต่อสุขภาพดวงตา ช่วยปกป้องจอประสาทตาจากรังสีอัลตราไวโอเลต และช่วยยับยั้งการลุกลามของต้อกระจก สารลูทีนที่เข้าสู่ร่างกายจะช่วยทำให้หลอดเลือดฝอยในดวงตาสะอาดและสดใส ช่วยบรรเทาอาการของโรคตาที่เกิดจากการสูงอายุ จึงแนะนำให้รับประทานเป็นประจำค่ะ
อันดับสุดท้ายคือ แซลมอนค่ะ ปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง เช่น แซลมอน มีผลดีต่อสุขภาพดวงตาอย่างมาก กรดไขมันโอเมก้า 3 ในปลาคล้ายกับส่วนประกอบของจอประสาทตา ช่วยเสริมสร้างจอประสาทตาให้แข็งแรง และช่วยบรรเทาอาการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้แซลมอนยังอุดมไปด้วยวิตามินบี ช่วยลดความเครียดและความเหนื่อยล้าของดวงตา กรดไขมันโอเมก้า 3 ในแซลมอนช่วยให้ดวงตาชุ่มชื้นและเรียบเนียน ช่วยบรรเทาอาการตาแห้งและภาพพร่ามัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลการวิจัยพบว่าผู้ที่รับประทานปลาอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งมีสายตาที่สดใสและฟื้นตัวได้ดีกว่าผู้ที่ไม่รับประทานปลา ดังนั้นขอแนะนำให้รับประทานปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง เช่น แซลมอน ปลาทู ปลาซาร์ดีน และปลาชนิดอื่นๆ ควบคู่ไปกับอาหารประจำวันนะคะ
ความคิดเห็น0