알려드림

ประโยชน์ของแอปเปิ้ล 8 ข้อที่คุณต้องรู้

  • ภาษาที่เขียน: ภาษาเกาหลี
  • ประเทศอ้างอิง: ทุกประเทศcountry-flag
  • อาหาร

สร้าง: 2024-03-30

สร้าง: 2024-03-30 00:18

ประโยชน์ของแอปเปิ้ล 8 ข้อที่คุณต้องรู้

บทความนี้จะมาแนะนำประโยชน์ของแอปเปิ้ล 8 ข้อ ที่คุณควรรับประทานเป็นประจำ แอปเปิ้ลนั้นมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย อุดมไปด้วยใยอาหารและวิตามินซี รวมถึงสารอาหารอื่นๆ ที่ช่วยป้องกันโรคต่างๆ มาดูกันว่าการกินแอปเปิ้ลอย่างสม่ำเสมอจะส่งผลดีต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

1. ช่วยดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

แอปเปิ้ลมีโพแทสเซียมที่ช่วยขับโซเดียมออกจากร่างกาย และมีใยอาหารชนิดละลายน้ำสูง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด นอกจากนี้ยังมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยลดความดันโลหิต
 
โพแทสเซียมในแอปเปิ้ลช่วยป้องกันการสะสมของโซเดียมและน้ำในร่างกายมากเกินไป จึงถือเป็นผลไม้ที่ดีต่อผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง
 
และยังช่วยป้องกันโรคหัวใจได้อีกด้วย โดยเฉพาะสารเอพิแคเทชิน (Epicatechin) ที่มีส่วนช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง นอกจากนี้ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงถือเป็นอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพหลอดเลือดอย่างแท้จริง

2. ช่วยป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2

ผู้ที่กินแอปเปิ้ลวันละ 1 ผล พบว่ามีโอกาสเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 น้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้กินถึง 25-30% ทีมวิจัยคาดว่าสารโพลีฟีนอล (Polyphenol) ในแอปเปิ้ลช่วยป้องกันความเสียหายต่อเซลล์เบตาในตับอ่อน ดังนั้นการกินแอปเปิ้ลทุกวันจึงมีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานได้เป็นอย่างดี

3. ดูแลผิวพรรณและป้องกันอาการท้องผูก

แอปเปิ้ลอุดมไปด้วยเพกติน (Pectin) ซึ่งเป็นใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำและละลายน้ำ เพกตินช่วยให้การทำงานของลำไส้เป็นปกติ ช่วยป้องกันอาการท้องผูก
 
นอกจากนี้ยังช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวพรรณดูสดใส ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส ป้องกันริ้วรอยก่อนวัย และสารอาหารต่างๆ ในแอปเปิ้ลยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากรูขุมขน ช่วยลดปัญหาสิวได้อีกด้วย

4. ต้านมะเร็งและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

ฟลาโวนอยด์ในแอปเปิ้ลช่วยกระตุ้นการสร้างสารต้านมะเร็ง ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะสารไตรเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoid) ที่มีส่วนช่วยป้องกันมะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งเต้านม นอกจากนี้แอปเปิ้ลยังอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

5. กระตุ้นการทำงานของลำไส้

เพกตินช่วยเพิ่มไขมันที่ดีต่อร่างกาย ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ และโพลีฟีนอลช่วยกระตุ้นการสร้างสารต้านมะเร็งในลำไส้ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของแบคทีเรียชนิดดีอย่างบิฟิโดแบคทีเรีย (Bifidobacteria) ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค
 
นอกจากนี้ เพกตินยังช่วยขจัดสารพิษ โลหะหนัก และสารก่อมะเร็งออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในยุคที่มลภาวะเป็นปัญหาสำคัญ ทำให้ร่างกายได้รับโลหะหนักสะสม จึงควรบริโภคแอปเปิ้ลอย่างสม่ำเสมอ

6. ช่วยดูแลระบบทางเดินหายใจ

สารต้านอนุมูลอิสระในแอปเปิ้ลมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพปอด ผลการวิจัยหลายชิ้นพบว่าผู้ที่กินแอปเปิ้ลเป็นประจำมีโอกาสเกิดโรคระบบทางเดินหายใจน้อยกว่า ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษพบว่า ผู้ที่กินแอปเปิ้ลอย่างน้อย 2 ผลต่อสัปดาห์ มีโอกาสเกิดโรคหอบหืดลดลงกว่า 20%
 
ซึ่งเกิดจากสารเคอร์เซทิน (Quercetin) และฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยเสริมสร้างและฟื้นฟูการทำงานของปอด ช่วยบรรเทาและป้องกันอาการของผู้ที่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดได้ถึง 44% ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจจึงควรรับประทานแอปเปิ้ลเป็นประจำ

7. ช่วยควบคุมน้ำหนัก

ใยอาหารในแอปเปิ้ลช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน จึงช่วยลดน้ำหนักและควบคุมน้ำหนักได้

8. ดูแลสุขภาพฟันและเหงือก

ควรทานแอปเปิ้ลพร้อมกับเปลือก เพราะเปลือกแอปเปิ้ลช่วยขจัดคราบแบคทีเรียและสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ระหว่างซี่ฟัน ช่วยป้องกันโรคเหงือกอักเสบและรักษาสุขภาพช่องปากให้แข็งแรง
 
นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการปากแห้งและมีคราบขาวในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำลาย ผู้ที่น้ำลายน้อยก็ควรทานแอปเปิ้ลเช่นกัน
 
อย่างไรก็ตาม แอปเปิ้ลก็มีข้อควรระวังเช่นกัน ใยอาหารในแอปเปิ้ลหากรับประทานมากเกินไปก่อนนอน อาจทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานมากเกินไป ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานไม่ดี มีแก๊สในท้องมาก และรบกวนการนอนหลับ ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานแอปเปิ้ลก่อนนอน 2 ชั่วโมง
 
และกรดในแอปเปิ้ลอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนในกระเพาะอาหารได้ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารควรเริ่มรับประทานในปริมาณน้อยๆ ก่อนแล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้น ขอให้ทุกท่านรับประทานแอปเปิ้ลอย่างถูกวิธีเพื่อสุขภาพที่ดี


ความคิดเห็น0

ไม่มีหัวข้อบทความนี้จะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับประโยชน์ ผลข้างเคียง สารอาหาร และปริมาณการบริโภคของกล้วย รวมถึงประโยชน์ในการควบคุมความดันโลหิต การปรับปรุงระบบย่อยอาหาร และผลข้างเคียงจากการบริโภคมากเกินไป พร้อมทั้งสูตรอาหารง่ายๆ
kangzlfm
kangzlfm
kangzlfm
kangzlfm

November 9, 2024

สมุนไพรและอาหารที่ดีต่อผู้ป่วยความดันโลหิตสูง: คู่มือการดูแลความดันโลหิตอย่างมีสุขภาพดีคู่มือการดูแลความดันโลหิตให้แข็งแรงด้วยสมุนไพรและอาหารที่ช่วยปรับปรุงความดันโลหิตสูง รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียมและแมกนีเซียมสูง และการลดปริมาณเกลือ
대한민국최고블로그
대한민국최고블로그
대한민국최고블로그
대한민국최고블로그

September 22, 2024

สรรพคุณและผลข้างเคียงของโอมีจา!เรียนรู้เกี่ยวกับรสชาติทั้งห้าและสรรพคุณต่อสุขภาพของโอมีจา รวมถึงข้อควรระวังในการรับประทานอย่างละเอียด ดูสรรพคุณมากมาย เช่น การเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน การปรับปรุงโรคระบบทางเดินหายใจ และผลข้างเคียงพร้อมปริมาณที่แนะนำ
kangzlfm
kangzlfm
kangzlfm
kangzlfm

November 9, 2024

มันฝรั่งกับสุขภาพ - ความลับอันน่าทึ่งของฤทธิ์ต้านมะเร็งและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดบทความนี้จะแนะนำฤทธิ์ต้านมะเร็งและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของมันฝรั่ง รวมถึงสารอาหารต่างๆ สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โพลีฟีนอลและฟลาโวนอยด์ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และดัชนีน้ำตาลต่ำช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ตรวจสอบได้ที่บล็อกความรู้ท
대한민국최고블로그
대한민국최고블로그
대한민국최고블로그
대한민국최고블로그

April 19, 2025

ผัก 5 ชนิด ที่ดีต่อผิวบทความแนะนำ 5 ผักยอดนิยมที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ ได้แก่ ผักโขม มะเขือเทศ แครอท บรอกโคลี และคะน้า ด้วยคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพื่อผิวที่ดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดี
beautysera
beautysera
beautysera
beautysera

April 22, 2024

อาหารดีๆ สำหรับผิวสวย ปรับผิวให้ดีขึ้นด้วยอาหารเหล่านี้!แนะนำอาหาร 5 ชนิด (อะโวคาโด บลูเบอร์รี่ แซลมอน มะเขือเทศ ผักโขม) ที่ช่วยดูแลสุขภาพผิว ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและเปล่งปลั่ง
beautysera
beautysera
beautysera
beautysera

April 28, 2024