หัวข้อ
- #สารผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายของการกลายสภาพเป็นน้ำตาล (AGEs)
- #โรคหัวใจ
- #โรคหลอดเลือดสมอง
- #การอักเสบเรื้อรัง
- #โรคสมองเสื่อม
สร้าง: 2024-03-29
สร้าง: 2024-03-29 20:56
ขออธิบายเกี่ยวกับอาหารที่แย่ที่สุดที่เป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์ โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ และการอักเสบเรื้อรังครับ อาหารเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งต่อสุขภาพ อาหารที่เรากินบางอย่างก็ส่งผลเสียต่อหลอดเลือดเช่นกัน เราจะมาดูกันว่าทำไมถึงไม่ดีต่อหลอดเลือดและเป็นสาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บได้อย่างไร และจะป้องกันได้อย่างไร รวมถึงควรทานอาหารเสริมประเภทใดบ้าง
มาดูกันก่อนว่าผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายของการกลายสภาพเป็นน้ำตาลคืออะไร เมื่อให้ความร้อนหรืออยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม น้ำตาลและโปรตีนจะรวมตัวกัน ซึ่งนั่นก็คือ ผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายของการกลายสภาพเป็นน้ำตาล หรือ AGE นั่นเอง AGE เรียกอีกอย่างว่า ไกลโคท็อกซิน (Glycotoxin) หรือสารพิษจากน้ำตาล ซึ่งเป็นสารที่เกิดจากปฏิกิริยาของน้ำตาลและโปรตีนโดยไม่จำเป็นต้องใช้เอนไซม์ และเข้าสู่ร่างกายผ่านสองเส้นทางหลักเพื่อก่อให้เกิดพิษ
เส้นทางแรกคือผ่านอาหารที่รับประทาน โดยเฉพาะอาหารที่ย่างด้วยไฟโดยตรงในอุณหภูมิสูงกว่า 120 องศาเซลเซียส เช่น การย่างเนื้อบนเตา ไม่ใช่การต้มหรือวิธีอื่นๆ อาหารที่ผ่านความร้อนสูงจะทำให้เกิดปฏิกิริยาของน้ำตาลและโปรตีน ส่งผลให้เกิดโปรตีนที่ผ่านกระบวนการกลายสภาพเป็นน้ำตาล ซึ่งเป็นสาเหตุของพิษ
การย่างอาหารจนเกิดสีน้ำตาลไหม้เล็กน้อย ทำให้มีกลิ่นหอม ซึ่งนั่นเป็นปฏิกิริยาที่ทำให้เกิด AGE หรือสารพิษจากน้ำตาลในร่างกายมากขึ้น
เมื่อเรารับประทานน้ำตาลมากเกินไป หรือมีน้ำตาลลอยอยู่ในหลอดเลือดมากเกินไป เช่น กรณีที่ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน อุณหภูมิของร่างกาย โปรตีนในร่างกาย และน้ำตาลที่ลอยอยู่จะรวมตัวกันสร้างผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายของการกลายสภาพเป็นน้ำตาลขึ้น ดังนั้น สารพิษจากน้ำตาลจึงเกิดขึ้นได้ทั้งจากภายนอกและภายในร่างกาย และก่อให้เกิดพิษต่อร่างกาย
สารพิษจากน้ำตาลเหล่านี้จะถูกดูดซึมที่ลำไส้ โดยมีการประมาณว่าร่างกายจะดูดซึมประมาณ 1 ใน 10 ของปริมาณที่รับประทานเข้าไป สารพิษจากน้ำตาลจะจับกับโปรตีน ทำให้โปรตีนสูญเสียความยืดหยุ่นได้ง่าย
สารพิษจากน้ำตาลจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ลอยไปทั่วร่างกายและจับกับหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็งตัว ส่งผลให้หลอดเลือดสมอง หลอดเลือดตา และหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงอวัยวะอื่นๆ เสื่อมสภาพ เกิดการอักเสบ และเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ
ดังนั้น ปฏิกิริยาออกซิเดชันและการอักเสบที่เกิดขึ้นซ้ำๆ จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โดยสารพิษจากน้ำตาล AGE นี้เอง นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย เนื่องจากชั้นผิวหนังประกอบด้วยโปรตีนเป็นส่วนใหญ่ สารพิษจากน้ำตาลจะจับกับชั้นผิวหนังและทำให้เกิดริ้วรอยตามข้อมูลที่มีอยู่
มาดูกันว่าอาหารประเภทใดบ้างที่มีสารพิษจากน้ำตาลอยู่มาก โดยทั่วไปแล้ว วัตถุดิบชนิดเดียวกัน หากต้มหรือลวก จะทำให้เกิดสารพิษจากน้ำตาลน้อยกว่าการทอดหรือย่างด้วยไฟโดยตรงมาก โดยเฉพาะอาหารทอดหรืออาหารที่ย่างด้วยไฟโดยตรง จะทำให้เกิดสารพิษจากน้ำตาลมากกว่าการลวกหรือต้มถึง 100 เท่า
โดยเฉพาะ เบคอนย่างด้วยไฟโดยตรง ที่แย่ที่สุด รองลงมาคือ ไก่ย่าง สเต็ก อาหารเหล่านี้ไม่ดีต่อสุขภาพจริงๆ ไม่มีการกำหนดปริมาณการรับประทานผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายของการกลายสภาพเป็นน้ำตาลที่เหมาะสม
สรุปแล้ว เบคอนนั้นแทบจะเหมือนขยะเลย ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเบคอนโดยสิ้นเชิง เบคอนมีสารก่อมะเร็งและมีปริมาณโซเดียมสูง จึงไม่ดีต่อสุขภาพ สามชั้นหมูจะดีกว่ามาก อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว การนึ่งหรือต้มเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด ควรหลีกเลี่ยงการทอดหรือย่างด้วยไฟโดยตรง
นอกจากนี้ ควรลดปริมาณการบริโภคฟรุกโตส ซึ่งพบได้ในเครื่องดื่มหวานๆ เช่น น้ำอัดลม พบได้ในผลไม้มากมาย พบได้ในน้ำผลไม้ พบได้ในไอศกรีม และขนมต่างๆ ฟรุกโตสหรือน้ำตาลจะทำให้ร่างกายสร้างผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายของการกลายสภาพเป็นน้ำตาลมากขึ้น
และการอดอาหารแบบแบ่งช่วงเวลา (Intermittent Fasting) ช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลินและป้องกันไม่ให้น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีดัชนีน้ำตาล (GI) สูง ซึ่งเป็นอาหารที่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง
อาหารเสริมชนิดใดบ้างที่จะช่วยได้? โดยทั่วไปแล้ว สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ประเภทแรกคือการเร่งการเผาผลาญน้ำตาลในร่างกายและเพิ่มความไวต่ออินซูลิน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาลลอยอยู่ในร่างกายมากเกินไป
และการยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชันเพื่อยับยั้งการสร้างผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายของการกลายสภาพเป็นน้ำตาลและป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับความเสียหายจากผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายของการกลายสภาพเป็นน้ำตาล มี 2 ประเภทนี้ครับ การดูดซึมน้ำตาลที่ลำไส้และสภาพแวดล้อมในลำไส้เป็นสิ่งสำคัญ
ดังนั้น การรับประทานโปรไบโอติกส์ที่ดีก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง นอกจากนี้ การปรับปรุงความไวต่ออินซูลินด้วยโอเมก้า 3 แมกนีเซียม และวิตามินบีก็เป็นสิ่งที่ควรทำเช่นกัน และควรเสริมสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อป้องกันความเสียหายจากออกซิเดชันในร่างกาย
สรุปแล้ว โอเมก้า 3 แมกนีเซียม วิตามินบี ไฟเบอร์ โปรไบโอติกส์ และสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยได้ แต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดูแลเรื่องอาหารการกินจะช่วยได้มากกว่าการพึ่งพาอาหารเสริม
ความคิดเห็น0